
เลนส์โปรเกรสซีฟ คือ เลนส์ที่ประกอบด้วยเลนส์ที่มีค่าสายตาหลายๆค่าในชิ้นเดียว โดยไล่ระดับจากค่าสายตามองไกล ไปหาค่าสายตามองใกล้ เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถมองได้ชัดเจนทั้งระยะไกล ระยะกลางและระยะใกล้นั่นเอง แตกต่างจากเลนส์ประเภทอื่น ๆ อย่างเช่น เลนส์ชั้นเดียวที่เลนส์ทั้งชิ้นมีเพียงค่าสายตาเดียวเท่านั้น ทำให้มองชัดเจนขึ้นระยะใดระยะหนึ่งเท่านั้น หรือเลนส์สองชั้นก็มองได้ชัดเจนเพียงสองระยะเท่านั้น เป็นต้น
นอกจากนั้นแว่นโปรเกรสซีฟยังมีเทคโนโลยีการขัดผิวเลนส์ ที่ช่วยให้การมองสลับไปมาระหว่างระยะการมองต่าง ๆ เป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ปวดตา หรือเวียนหัว อีกด้วย
เลนส์โปรเกรสซีฟมีทั้งหมดกี่รุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
เลนส์โปรเกรสซีฟทุกยี่ห้อของ Hogar Vision จะแบ่งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ รุ่นเริ่มต้น,รุ่นมาตรฐาน,รุ่นกลาง,รุ่นดีเยี่ยม,รุ่นท็อปสุด แบ่งระดับอย่างง่ายแบบนี้เพื่อความสะดวกในการอธิบาย และช่วยให้คุณได้มองเห็นภาพง่ายขึ้นค่ะ
|
เลนส์โปรเกรสซีฟ ระดับเริ่มต้น เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟในราคาที่ย่อมเยา มีการออกแบบเพื่อให้การมองเห็นมีความชัดเจนพื้นฐานและความสะดวกสบายในการมองเห็น ได้การมองเห็นที่ชัดเจนในการใช้งานประจำวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพที่เพียงพอสำหรับการมองเห็นในกิจกรรมทั่วไป
เลนส์โปรเกรสซีฟ ระดับเริ่มต้น ราคาประมาณ 6,990-10,000 บาท |
|
|
|
เลนส์โปรเกรสซีฟ ระดับกลาง Intermediate เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นกลางนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพการมองเห็นที่ดี มีการออกแบบมาเพื่อมอบความชัดเจนและความสบายในการมองเห็นที่มีความสมดุล ผู้สวมใส่จะได้รับประสบการณ์การมองเห็นที่คมชัดในการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปจนถึงการอ่านหรือกิจกรรมกลางแจ้ง
|
|
...
|
เลนส์โปรเกรสซีฟ ระดับ ราคาโดยประมาณ 35,000-67,000฿ |
เลนส์โปรเกรสซีฟถูก-แพงขึ้นอยู่กับอะไร?
การตัดแว่นโปรเกรสซีฟราคาถูกก็จะได้รับแว่นโปรเกรสซีฟที่มีคุณสมบัติพื้นฐานของแว่นโปรเกรสซีฟทั่วไป คือ สามารถมองได้ชัดเจนทั้งสามระยะ ได้แก่ ระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกล แต่ไม่มีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากคุณสมบัติเหล่านี้นั่นเอง เช่น การย่อบางเลนส์ การป้องกันแสงสีฟ้า การเปลี่ยนสีอัตโนมัติ หรือ การเพิ่มพื้นที่การมองให้กว้างขึ้น เป็นต้น
นอกจากราคาจะแตกต่างกันในแต่ละระดับรุ่นเลนส์แล้ว ราคาของแว่นโปรเกรสซีฟราคาถูกก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับค่าสายตาของลูกค้า และอยู่ที่ความต้องการของลูกค้าว่าต้องการเลนส์ยี่ห้อใด และเลนส์มีคุณสมบัติเพิ่มเติมอะไรด้วยค่ะ
การตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ราคาแพงจะมีคุณสมบัติต่างๆ ที่ดีกว่าแว่นโปรเกรสซีฟราคาถูก โดยจะขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกแว่นโปรเกรสซีฟที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ซึ่งนอกจากระดับของเลนส์โปรเกรสซีฟแล้ว จะมีราคาแพงขนาดไหนขึ้นอยู่กับอีก 4 ประการ ได้แก่



4. ไลฟ์สไตล์การใช้สายตาของแต่ละคน
เลนส์โปรเกรสซีฟมี 3 โซนการมองคือ ไกล กลาง และ ใกล้ โดยรุ่นมาตรฐานก็จะผลิตออกมาแบบพื้นฐานที่ไม่ได้เน้นโซนใดโซนนึงเป็นหลัก และโซนกลางที่เป็นโซนสำหรับใช้คอมพิวเตอร์จะน้อยกว่าโซนอื่น
ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 5-6 ชม.ต่อวัน อาจไม่เหมาะกับรุ่น Beginner เพราะจะต้องเงยหน้ามอง เพื่อให้เห็นชัด ทำให้ปวดต้นคอได้เมื่อใช้ไปนานๆ หรือท่านที่ใช้คอมพิวเตอร์มาก หรือใช้งานโซนระยะกลางมากๆ เช่น
แนะนำให้เลือกเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อระยะกลางกว้าง ซึ่งในปัจจุบันก็มีเลนส์หลายๆ รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในโซนนี้โดยเฉพาะ เช่น Rodenstock Impression หรือ Zeiss smartlife Individual
การเลือกว่าควรตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ราคาเท่าไหร่ดีที่สุด เราก็ควรที่จะต้องประเมินถึงความจำเป็นและความตอบโจทย์ด้านการใช้งานว่าเราต้องการแว่นโปรเกรสซีฟที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง จากการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เพื่อให้สามารถใช้แว่นโปรเกรสซีฟได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และในขณะเดียวกันก็ได้แว่นที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน
ในการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟสักคู่ให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดนั้น ไม่ได้มีเพียงปัจจัยทางด้านราคาเพียงอย่างเดียว เพราะหากเลือกผิด อาจทำให้ตัดแว่นโปรเกรสซีฟแล้วใส่ไม่ได้ ข้อมูลข้างต้นทั้งหมดไม่ได้หมายความว่า เลนส์โปรเกรสซีฟยิ่งแพงยิ่งดี เราควรคำนึงจุดประสงค์ในการใช้งาน ค่าสายตา และความ sensitive ของแต่ละบุคคล เมื่อพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดนี้แล้ว มั่นใจได้ว่าเราจะได้แว่นตาคู่ใจได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า “แว่นโปรเกรสซีฟไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดถึงจะดีที่สุด แต่ควรเป็นแว่นที่เหมาะสมการใช้งานของเราที่สุดค่ะ”
หากยังไม่มั่นใจว่าจะตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ราคาเท่าไหร่ เลือกรุ่นไหนที่เหมาะกับเรา เชิญเข้ามาปรึกษาเรา ที่ Hogar Vision เรามีเลนส์โปรเกรสซีฟให้คุณได้ทดลองก่อนตัดแว่น เพื่อให้มั่นใจว่าแว่นโปรเกรสซีฟที่คุณตัดไปใช้งานได้จริง
ตัวอย่างการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะสมตามอายุ และค่าสายตา
(ตัวอย่างเหล่านี้รวบรวมจากประสบการณ์ที่ร้าน Hogar Vision แนะนำเลนส์ให้ลูกค้าแล้วใส่โปรเกรสซีฟประสบความสำเร็จ)
Case1 ลูกค้าอายุ 39 ปี เข้ามาปรึกษาคุณหมอสายตา เพราะรู้สึกตาล้า
โดยก่อนหน้านี้มองไกลเห็นชัดปกติ มองใกล้เดี๋ยวชัดเดี๋ยวไม่ชัด ต้องจ้องไปสักพักถึงจะชัดปกติ แต่เริ่มรู้สึกตาล้าเวลาใช้สายตาเยอะๆโดยเฉพาะวันที่ทำงานหน้าคอมนานๆ เลยอยากจะตัดแว่นกรองแสงหน้าจอคอมเผื่อช่วยได้
เมื่อตรวจวัดสายตาลูกค้า พบว่ามีค่าสายตายาว ทั้งไกลและใกล้
Refraction Test result
R : +0.50-0.50x180
L : +0.25
Add 0.75
หลายท่านอาจจะมีคำถามในใจว่า อายุน้อยๆก็มีสายตายาวได้หรอ? หรือมีสายตายาวมองไกลด้วยหรอ? คำตอบคือ คนที่อายุน้อยๆก็มีสายตายาวได้ค่ะ มักจะเป็นสายตายาวมองไกลด้วยค่ะ แต่สายตายาวน้อยๆมักจะไม่แสดงอาการ มองไกลยังเห็นชัดปกติ แต่เมื่อใช้สายตามองใกล้เป็นระยะเวลานานๆ จะส่งผลให้มีอาการตาล้า ตาพร่า ทั้งมองไกลและมองใกล้ ดังนั้นหากไม่ตรวจวัดสายตาก็จะไม่รู้เลยว่ามีสายตายาวมองไกลด้วย
เมื่อได้ผลตรวจวัดสายตา หมอทัศนมาตร วิเคราะห์ว่า ค่าสายตามองไกลมีนิดหน่อยไม่จำเป็นต้องมีแว่นมองไกล แนะนำให้ทำแว่นสำหรับเน้นมองใกล้ แต่เนื่องจากลูกค้าอยากตัดแว่นที่สามารถใส่ได้ทั้งวัน ทั้งขับรถและทำงานหน้าคอม จึงแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟให้กับลูกค้า โดยรุ่นที่แนะนำคือเลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นเริ่มต้น เนื่องจากลูกค้าเพิ่งเริ่มมีสายตายาวตามอายุ เพียง +0.75D และค่าสายตาไม่เยอะ ไม่ซับซ้อน ดังนั้นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นเริ่มต้นนี้สามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมแล้ว
Case2 ลูกค้าอายุ 45 ปี เข้ามาปรึกษาคุณหมอสายตา มีอาการมองใกล้ไม่ชัด
โดยก่อนหน้านี้มีสายตาสั้นทั้งสองตา ใส่แว่นมองไกลเห็นชัดปกติ แต่รู้สึกว่ามองใกล้ไม่ชัด ถอดแว่นมองใกล้ก็ไม่ชัด รู้สึกว่ามองระยะใกล้ลำบาก โดยเฉพาะเวลาทำงานหน้าคอม และตอนใช้โทรศัพท์มือถือ
เมื่อตรวจวัดสายตาลูกค้า พบว่ามีค่าสายตาสั้น และสายตายาวตามอายุ
Refraction Test result
R : -3.75-1.00x175
L : -2.25-1.75x5
Add 1.00
เมื่อได้ผลตรวจวัดสายตา หมอทัศนมาตร วิเคราะห์ว่า อาการมองใกล้ไม่ชัดทั้งตอนใส่แว่น และตอนถอดแว่น เนื่องจากสายตายาวตามอายุ ดังนั้นจึงแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นระดับกลาง ด้วยเหตุผลที่ว่า ลูกค้ามีค่าสายตาของตาทั้งสองข้างต่างกันเยอะทั้งสายตาสั้นและสายตาเอียง จึงต้องใช้เลนส์รุ่นระดับกลางที่มีเทคโนโลยีคำนวณโครงสร้างเลนส์เพื่อรองรับค่าสายตาสองข้างที่ต่างกันด้วย ถึงจะใส่แล้วสบายตา ปรับตัวได้ง่าย แนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นระดับกลางนี้เพื่อซัพพอร์ตปัญหาสายตาของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
Case3 ลูกค้าอายุ 48 ปี เข้ามาปรึกษาคุณหมอสายตา เพราะรู้สึกว่าใส่แว่นเดิมแล้วมองเห็นไม่ชัดทั้งมองไกลและมองใกล้
แว่นเดิมเป็นแว่นสายตาสั้น ตัดมาแล้วประมาณ 3 ปี ใส่แว่นปีแรกเห็นชัดทั้งมองไกลและมองใกล้ พอปีถัดมารู้สึกว่าแว่นที่ใช้อยู่เริ่มชัดน้อยลง จนช่วงปัจจุบันนี้รู้สึกว่าไม่ชัดทั้งมองไกลและมองใกล้
ค่าสายตาแว่นเดิม
R : -2.75
L : -3.50
เมื่อตรวจวัดสายตาลูกค้า พบว่ามีค่าสายตาสั้นเปลี่ยนไปจากแว่นเดิม และมีสายตายาวตามอายุ
Refraction Test result
R : -3.00
L : -4.50
Add 1.50
เมื่อได้ผลตรวจวัดสายตา หมอทัศนมาตร วิเคราะห์ว่า แว่นเดิมของลูกค้าน่าจะทำแว่นแบบ monovision มา หมายถึงการมองแต่ละระยะโดยใช้ตาข้างเดียว อ้างอิงจากแว่นเดิม ตาข้างขวาใช้มองไกล และ ตาข้างซ้ายใช้มองใกล้ ดังนั้นแว่นเดิมนี้จึงมองเห็นชัดทั้งไกลทั้งใกล้ในช่วงปีแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปค่าสายตาสั้นและสายตายาวตามอายุเปลี่ยน จึงทำให้มองเห็นไม่ชัดทั้งระยะไกลและใกล้ ดังนั้นจึงแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟระดับรุ่นกลาง เพื่อตอบโจทย์ค่าสายตายาวตามอายุ 1.50D และค่าสายตาสั้นของทั้งสองตาที่แตกต่างกัน ในกรณีนี้ทางหมอสายตาไม่แนะนำให้ทำแว่นแบบ monovision ต่อ เนื่องจากค่าสายตายาวตามอายุเพิ่มขึ้น แปลว่าเลนส์ตายืดหยุ่นได้น้อยลง ดังนั้นหากทำแว่นแบบ monovision กลับไปอาจจะส่งผลให้มีอาการตาล้า เนื่องจากต้องใช้สายตามองไกลหรือมองใกล้อยู่ข้างเดียว
Case4 ลูกค้าอายุ 56 ปี เข้ามาปรึกษาคุณหมอสายตา เพราะอยากเปลี่ยนแว่นใหม่
เหตุการณ์แสนจะธรรมดา เข้าร้านแว่นอยากตัดแว่นใหม่ ลูกค้าบอกว่าแว่นเดิมไม่ชัด แต่ก็ยังใช้ได้อยู่ทั้งมองไกลและมองใกล้ ปัญหาที่อยากเปลี่ยนเลนส์คือเลนส์ขุ่นเหลืองมัวมากๆ เลยอยากตัดแว่นใหม่ แว่นเดิมนี้ใช้มา 6 ปี เป็นแว่นโปรเกรสซีฟรุ่นระดับกลาง
ค่าสายตาแว่นเดิม
R : +1.00
L : +0.75
Add 1.50
เมื่อตรวจวัดสายตาลูกค้า พบว่ามีค่าสายตาเอียง สายตายาวมองไกล และสายตายาวตามอายุเพิ่มขึ้น
Refraction Test result
R : +2.00-0.75x90
L : +2.00-0.75x100
Add 2.00
เมื่อได้ผลตรวจวัดสายตา หมอทัศนมาตร วิเคราะห์ว่า"กรณีนี้ไม่ธรรมดา" ค่าสายตามองไกลยาวขึ้นเท่าตัว สายตาเอียงร่วมด้วย สายตายาวตามอายุเพิ่มขึ้นด้วย แม้สายตายาวตามอายุเมื่อเทียบแล้วเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่เมื่อรวมค่าสายตาสำหรับมองใกล้ (คือผลรวมของค่าสายตาไกล+ค่าใกล้) จะเห็นได้ว่าค่าสายตาเปลี่ยนเยอะมาก ดังนั้นจึงแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นระดับดีเยี่ยม หรือรุ่นระดับท็อปสุด ให้ลูกค้า เพื่อที่โครงสร้างเลนส์และเทคโนโลยีของเลนส์รุ่นระดับดีเยี่ยมหรือรุ่นท็อปสุด จะมาช่วยตอบโจทย์ค่าสายตาที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าได้
สรุป ตัวอย่างการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ
1. ค่าสายตามองไกลไม่เยอะมาก ค่าสายตาสองข้างไม่ต่างกันมาก มีค่าสายตายาวตามอายุ ไม่เกิน 1.25D
แนะนำ เริ่มต้นด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นเริ่มต้น หรือ รุ่นมาตรฐาน ได้
2. ค่าสายตามองไกลเยอะ มีค่าสายตาเอียง หรือค่าสายตาสองข้างต่างกัน
แนะนำ เริ่มต้นด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นกลางขึ้นไป
3. ค่าสายตามองไกลไม่เยอะมาก ค่าสายตาสองข้างไม่ต่างกันมาก มีค่าสายตายาวตามอายุ เกิน 1.50D-1.75D
แนะนำ เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นมาตรฐานขึ้นไป
4. ค่าสายตามองไกลไม่เยอะมาก ค่าสายตาสองข้างไม่ต่างกันมาก มีค่าสายตายาวตามอายุ เกิน 1.75D-2.00D
แนะนำ เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นกลางขึ้นไป
5. ค่าสายตามองไกลไม่เยอะมาก ค่าสายตาสองข้างไม่ต่างกันมาก มีค่าสายตายาวตามอายุ เกิน 2.00D-2.50D
แนะนำ เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นดีเยี่ยม หรือรุ่นท็อปสุด
6. หากเป็นผู้ที่เคยใช้แว่นโปรเกรสซีฟมาแล้ว แล้วมีค่าสายตายาวเพิ่มขึ้น
แนะนำ เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นที่สูงกว่ารุ่นเดิมที่เคยใช้อยู่ เพื่อให้ได้พื้นที่โซนการมองใกล้เคียงเดิมและไม่แคบไปกว่าเดิม จะปรับตัวได้ง่ายกว่า
ทางร้านตั้งอยู่ที่ : ติดถนนศรีนครินทร์ สี่แยกศรีนุช (อ่อนนุช)
Credit
https://orralens.com/progressive-lens-price-factors/
https://www.mattayaclinic.com/progressive-lens-brand/
https://aurora2020.com/why-do-progressive-lenses-cost-so-much/
https://www.viewoptometry.ca/blog/



Hogar Vision


