ไม่รู้ไม่ได้แล้ว!! การใส่แว่นสายตาไม่ตรงค่าสายตาจริง อันตรายกว่าที่คิด!!!
เริ่มแรก คนที่มีปัญหาสายตามักจะไปตัดแว่น ที่ร้านตัดแว่นทั่วไป แต่บางครั้งก็ซื้อแว่นสำรองตามร้านออนไลน์ต่างๆเพื่อความสะดวก ที่พอจะใกล้เคียงกับค่าแว่นที่ตรงกับต่าสายตาของเราจริงๆ แต่นั่นก็เป็นเพียงค่าสายตาโดยประมาณ ที่ทำไว้เพื่อวางจำหน่ายได้ทั่วไป และหลายคนก็มองว่า ค่าสายตาที่แตกต่างเพียงเล็กน้อย ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากนัก
แต่จริงๆแล้วการที่ใส่แว่นที่มีค่าสายตา สูงกว่า หรือต่ำกว่า ค่าสายตาจริง มักจะมีผลเสียที่จะตามมาอย่างแน่นอน
การใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาคืออะไร ?
การใส่แว่นไม่ตรงกับค่าสายตา หมายถึงการใช้แว่นตาที่มีค่ากำลังของเลนส์ไม่สอดคล้องกับความผิดปกติของสายตาที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใส่แว่นที่มีค่าสายตามากหรือน้อยเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ
- การซื้อแว่นสำเร็จรูปโดยไม่ได้วัดสายตา
- การใช้แว่นเก่าที่ไม่ได้เปลี่ยนเลนส์เป็นเวลานาน
- การตรวจวัดสายตาที่ไม่ได้มาตรฐาน
- การเลือกใช้บริการร้านแว่นที่ไม่ได้คุณภาพ
ใส่แว่นสายตาแล้วเวียนหัวเกิดจากอะไร?
- ค่าสายตาคลาดเคลื่อนจากใบวัดเดิม
การวัดสายตาไม่ละเอียด หรืออุปกรณ์วัดไม่ทันสมัย อาจทำให้ได้ค่าที่ไม่ตรงกับสภาพสายตาปัจจุบัน
- เลนส์มีความโค้ง ความเอียง หรือค่าปรับไม่พอดีกับสายตาจริง
โดยเฉพาะในผู้ที่มีสายตาเอียง หากเลือกเลนส์ไม่เหมาะสมจะเกิดความบิดเบี้ยวของภาพ
- ปรับตัวกับเลนส์ยังไม่ได้
หากได้แว่นใหม่ อาจต้องใช้เวลาปรับตัว 2-3 วัน และต้องมีการตรวจวัดจุดโฟกัสตาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
อาการที่มักเกิดขึ้นเมื่อใส่แว่นผิดค่าสายตา
หากคุณสวมแว่นแล้วเริ่มมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณว่าเลนส์ที่คุณใช้อยู่อาจไม่ตรงกับค่าสายตาที่แท้จริง
- เวียนหัว หน้ามืด มึนงง : โดยเฉพาะช่วงแรกหลังใส่แว่นใหม่ หรือเมื่อต้องเปลี่ยนทิศทางการมองบ่อยๆ
- ปวดตา ตาล้า หรือปวดศีรษะ : เกิดจากกล้ามเนื้อตาพยายามปรับโฟกัสกับภาพที่ผิดเพี้ยน
- มองเห็นภาพเบลอหรือบิดเบี้ยว : ทั้งระยะใกล้หรือไกล โดยเฉพาะเมื่อใช้งานหน้าจอ
- รู้สึกไม่สบายตาเมื่อใช้สายตานานๆ : ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงโดยไม่รู้ตัว
สาเหตุของอาการต่างๆ
- ปวดตา ตาล้าง่าย เมื่อใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตา กล้ามเนื้อรอบดวงตาจะต้องเพ่งมากขึ้นเพื่อชดเชยค่าสายตาที่ผิดไป อาจรู้สึกว่าตาล้าง่าย ปวดตา หรือเกิดอาการตึงบริเวณรอบดวงตาหลังจากการใช้งานนาน ๆ อาการนี้เป็นสัญญาณว่าแว่นตาที่สวมใส่อาจไม่เหมาะสมกับค่าสายตาปัจจุบัน
- ปวดหัว เวียนหัว การใช้แว่นที่ไม่ตรงกับค่าสายตาทำให้ระบบการมองเห็นทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้เกิดการเพ่งและการทำงานของสมองเพิ่มขึ้น นำไปสู่อาการปวดหัวหรือเวียนหัวได้ โดยเฉพาะหลังจากการใช้แว่นเป็นเวลานาน ๆ หรือในสถานการณ์ที่ต้องใช้สมาธิสูง เช่น การขับรถ อ่านหนังสือ หรือการทำงานบนคอมพิวเตอร์
- สายตายาวตามวัยมาเร็วกว่าปกติ สำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วัย 30-40 ปี หากใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตา อาจมีผลให้เกิดอาการสายตายาวตามวัยเร็วกว่าปกติ อาการนี้เกิดจากการที่เลนส์ตาและกล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักเพื่อเพ่งระยะใกล้
- สายตาสั้นเพิ่มขึ้นถาวรในวัยรุ่น สำหรับวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น การใส่แว่นที่มีค่าสายตาสั้นมากเกินความจำเป็นอาจกระตุ้นให้กระบอกตายาวขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดสายตาสั้นเพิ่มขึ้นถาวรได้ วัยนี้เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต การใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาจึงมีโอกาสทำให้เกิดอาการสายตาสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และยากที่จะคืนกลับมาเป็นปกติ
- มองเห็นภาพเดี๋ยวชัดเดี๋ยวเบลอ อาการมองเห็นภาพชัดบ้างเบลอบ้าง เช่น ช่วงเช้าเห็นชัด แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงสายหรือบ่าย ๆ เริ่มมองเห็นเบลอ อาจเป็นเพราะกล้ามเนื้อและระบบประสาทตาล้าที่ต้องพยายามเพ่งเพื่อปรับค่าสายตาตามแว่นที่ไม่ตรงกับค่าสายตาจริง จนกระทั่งระบบการมองเห็นเริ่มทำงานหนักไม่ไหวและเห็นเบลอได้ในที่สุด
เพราะฉะนั้น การใส่แว่นสายตาที่ค่าสายตาน้อยกว่าหรือมากกว่าค่าสายตาจริงนั้น มีโอกาสทำให้ค่าสายตาสั้นหรือยาว เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่ควรจะเป็นได้ อีกทั้งยังส่งผลให้การทำงานของดวงตา ในระบบการเพ่งมีประสิทธิภาพน้อยลง จนกระทบการใช้ชีวิตประจำวันในที่สุด
แน่นอนว่า เรื่องของค่าสายตา หากคุณไม่มั่นใจว่าค่าสายตาของคุณเท่าไหร่ สามารถขอคำแนะนำจากร้านแว่นต่างๆที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาได้

อยากได้แว่นที่ตรงกับค่าสายตาต้องทำอย่างไร ?
- ตรวจค่าสายตากับผู้เชี่ยวชาญ การตรวจค่าสายตากับผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักทัศนมาตรที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวิเคราะห์ค่าสายตาให้ตรงกับสภาพดวงตาจริง และให้คำแนะนำในการเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เลนส์สายตาเดียว (Single Vision Lenses) หรือตัดแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lenses) ที่เหมาะสำหรับการมองหลายระยะ
- เลือกเลนส์คุณภาพสูง เลนส์ที่มีคุณภาพดีจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาและเพิ่มความสบายในการใช้งาน โดยเฉพาะหากต้องใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรเลือกเลนส์ที่มีการป้องกันแสงสีฟ้า หรือเลนส์เฉพาะสำหรับการทำงาน (Office Lenses) ที่ออกแบบมาเพื่อลดอาการเมื่อยล้าตาในสภาพการทำงานระยะใกล้สำหรับคนที่มีอาการสายตายาวตามวัย
- เปลี่ยนแว่นตาเมื่อค่าสายตาเปลี่ยนแปลง ค่าสายตาของเรามีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัยและการใช้ชีวิต ควรตรวจสายตาเป็นประจำเพื่อให้ค่าสายตาของแว่นตรงกับสายตาจริง หากค่าสายตาเปลี่ยนไป ควรรีบเปลี่ยนแว่นตาใหม่ที่มีค่าความโค้งเลนส์ที่เหมาะสมทันที เพื่อรักษาสุขภาพสายตาให้แข็งแรง
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากใส่แว่นที่ไม่ตรงค่าสายตา
- กระทบต่อคุณภาพชีวิต เช่น ทำงานไม่เต็มที่ เรียนรู้ช้าลง หรือเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ยานพาหนะ
- สายตายิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะกล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น
- สมองพยายามปรับภาพ ทำให้เหนื่อยล้า เสี่ยงต่ออาการปวดศีรษะเรื้อรัง
- สมดุลการทรงตัวเสีย ทำให้รู้สึกโงนเงนหรือเดินผิดจังหวะ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
ใครเสี่ยงมากที่สุด? หากสวมใส่แว่นที่ไม่ตรงค่าสายตา
- ผู้สูงอายุ ที่ระบบการทรงตัวไวต่อความผิดเพี้ยนของภาพ
- เด็กและวัยรุ่น ที่สายตายังพัฒนา หากใช้แว่นผิดค่าจะมีผลระยะยาว
- ผู้ใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ต้องการการปรับระยะสายตาหลายช่วงในเลนส์เดียว หากออกแบบไม่ตรงจุด อาจเวียนหัวได้ทันทันที
ตรวจเช็กและแก้ไขอย่างไร เมื่อสงสัยว่าแว่นไม่ตรงกับค่าสายตา?
- ตรวจวัดสายตากับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมเครื่องมือที่แม่นยำและวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของคุณ
- หลีกเลี่ยงแว่นตาสำเร็จรูปจากร้านทั่วไป เพราะมักไม่ได้ออกแบบให้ตรงกับดวงตาและจุดมองเฉพาะบุคคล
- เลือกเลนส์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เช่น เลนส์โปรเกรสซีฟสำหรับคนทำงานหน้าจอหรือเลนส์เฉพาะทาง
- ทดลองเลนส์ก่อนตัดจริง กับศูนย์เลนส์ที่มีระบบจำลองการมองเห็นจริง เพื่อให้มั่นใจว่าใส่แล้วไม่เวียนหัวหรือปวดตา
หลายคนอาจเคยรู้สึกเวียนหัว ปวดตา หรือมองภาพไม่ชัด หลังจากใส่แว่นสายตาคู่ใหม่ ซึ่งบางครั้งอาการเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่หากเกิดจาก “ค่าสายตาที่ไม่ตรงกับเลนส์ที่ตัด” ก็อาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งการมองเห็นและสุขภาพโดยรวมของเราได้
การใส่แว่นผิดค่าสายตาไม่ได้แค่ทำให้รู้สึกไม่สบาย แต่ยังส่งผลต่อสมอง การทรงตัว และคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องใช้สายตาในการทำงานหน้าจอหรือใช้ชีวิตกับเทคโนโลยีตลอดทั้งวั
อย่ามองข้ามอาการเล็ก ๆ การใส่แว่นไม่ตรงค่าสายตาอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณ หากคุณเริ่มรู้สึกเวียนหัว ปวดตา หรือมองเห็นผิดปกติหลังเปลี่ยนแว่นใหม่ อย่ามองข้าม เพราะอาการเล็กน้อยเหล่านี้ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่ใหญ่กว่าที่กำลังตามมา