หลายๆท่านที่กำลังจะตัดแว่นใหม่ คงจะมีคำถามเรื่องอายุการใช้งานของแว่น ว่าจ่ายเงินไปครั้งนึง แว่นตัวนี้จะอยู่กับเราไปได้นานแค่ไหน เพื่อประเมินงบประมาณในการลงทุนกับแว่นสายตาใช่ไหมคะ ดังนั้นทางร้านแว่นตา Hogar Vision ขอมาแชร์ประสบการณ์การตัดแว่นให้กับลูกค้า เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการสนับสนันการตัดสินใจของทุกท่านค่ะ
คำถามจากลูกค้า
Q : แว่นสายตา มีอายุการใช้งานกี่ปี?
A : โดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 ปี
Q : ปัจจัยอะไรบ้าง? ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแว่นใหม่
A : ค่าสายตาเปลี่ยน / ผิวเคลือบเลนส์เสื่อม / กรอบแว่นชำรุด
Q : ลงทุนตัดแว่นทั้งที จัดแบบดีๆแพงๆไปเลยจะคุ้มไหม?
A : ถ้าคุณต้องใช้สายตาในการทำงานอยู่ตลอด แนะนำตัดแว่นดีๆ
แต่ไม่จำเป็นต้องแพง เพื่อรักษาสุขภาพสายตา รับรองว่าคุ้มค่ะ
ปกติแล้วแว่นตาคู่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นเลนส์ประเภทไหนก็ตาม จะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสายตาและเลนส์แว่นตา ของเราจะปลี่ยนไป และยังมีผลมาจากปัจจัยอื่นๆภายนอกอีก ดังต่อไปนี้
1. ใช้แว่นเดิมแล้วมองไม่ชัด - ในกรณีนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่มอายุ ก็คือผู้ที่อายุต่ำกว่า 40 และผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป
ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี มักจะมีปัญหาสายตา สายตาสั้น สายตาเอียง หรือสายตายาว ซึ่งมาจากกรรมพันธุ์ หรือจากพฤติกรรมการใช้สายตา เช่น การมองใกล้เป็นระยะเวลานาน ทั้งการอ่านหนังสือ การมองสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต รวมไปถึงการมองจดจ่อหน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆหลายชั่วโมง ในทุกๆวันด้วย พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ค่าสายตามีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งประเมินระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาที่แน่นอนไม่ได้ บางคนอาจจะต้องเปลี่ยนแว่นใหม่ทุกปี หรือ บางคนอาจจะ 2-3 ปีครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้สายตา ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม และกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน
สาเหตุทางสรีระที่ทำค่าสายตามีการเปลี่ยนแปลงในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี คือการเจริญเติบโตของลูกตา
ในช่วงที่เป็นทารก และ 2 - 3 ขวบปีแรก ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านสายตา และโรคทางตาอื่น ๆ เกิดขึ้นได้ เราจึงควรรู้ว่าเมื่อไรจะพาลูก ๆ ของเราไปตรวจวัดสายตาเพื่อพัฒนาการมองเห็นให้ดีที่สุด
การเปลี่ยนแปลงของสายตา
การเปลี่ยนแปลงของสายตาขึ้นกับความยาวของลูกตาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงความโค้งของกระจกตาและเลนส์ตา เด็กทารกโดยทั่วไปจะมีภาวะสายตายาวประมาณ +1.00 diopters สายตาจะยาวมากขึ้นเล็กน้อยเมื่ออายุประมาณ 2-4 ปี คือ จะยาวประมาณ +2.00 ถึง +3.00 diopters จากนั้นภาวะสายตายาวจะลดลงเรื่อยๆ จนกลับมามีสายตาปกติที่อายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี โดยทั่วไปการเปลี่ยนแปลงของสายตาในแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปบ้าง แต่พบว่าหากเด็กมีอาการสายตาสั้นก่อนอายุ 10 ปี จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดสายตาสั้นมากกว่า -6.00 diopters เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
เมื่อเราทราบว่าสายตาจะมีการเปลี่ยนแปลงมากในช่วงวัยเด็ก ดังนั้นจึงควรระมัดระวังเรื่องการใช้สายตาของเด็ก จึงจะควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสายตาให้เป็นไปตามวัยได้ และหากเกิดความผิดปกติควรได้รับการแก้ไขเรื่องสายตาผิดปกติตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งมีส่วนสำคัญมากต่อการพัฒนาความสามารถในการมองเห็นให้ดีที่สุด เนื่องจากสมองจะต้องได้รับการกระตุ้นจากการมองเห็นที่ดีหรือภาพที่มีความชัดเจนด้วย
ส่วนผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป จะมีปัญหาสายตาที่เรียกว่าสายตายาวตามอายุ ความสามารถในการเพ่งจะค่อยๆลดลง ซึ่งการเพ่งคือการที่เลนส์ตาและกล้ามเนื้อรอบเลนส์ตาทำงานร่วมกัน เพื่อให้มองระยะใกล้ได้ชัดเจน เมื่อความสามารถในการเพ่งลดลง ก็จะทำให้การมองเห็นระยะใกล้มัวลง เช่น การอ่านหนังสือและงานที่ต้องมองใกล้อื่นๆ
ความสามารถในการเพ่งมองระยะใกล้ ซึ่งเรียกว่าภาวะสายตายาวตามวัย (presbyopia) เกิดขึ้นเนื่องจากเลนส์ภายในดวงตามีความยืดหยุ่นน้อยลง ความยืดหยุ่นนี้ช่วยในการเปลี่ยนโฟกัสจากวัตถุที่อยู่ไกลไปยังวัตถุที่อยู่ใกล้ได้ ผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามวัยมีทางเลือกมากมายในการกลับมามองเห็นระยะใกล้ได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง ด้วยวิธีเหล่านี้
เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 40-55 ปี สายตายาวตามวัยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแว่นใหม่เพื่อปรับค่าสายตา โดยเฉลี่ยประมาณ 2-3 ปีต่อครั้ง แต่เมื่อมีอายุประมาณ 60 ปี การเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตาจะค่อยๆชะลอลง และค่าสายตายาวจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่าสายตายาวในช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเปลี่ยนเมื่อเวลาผ่านไป 3-5 ปี แนะนำเข้ามาตรวจวัดค่าสายตาอยู่เป็นประจำทุกๆ 2 ปี
สายตายาวตามวัยไม่สามารถป้องกันหรือรักษาได้ แต่คนส่วนใหญ่สามารถมองระยะใกล้ได้ชัดเจนด้วยแว่นตา เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกๆด้าน
2. ผิวเคลือบเลนส์แว่นตาเสื่อม – ปกติเลนส์ทุกชนิดจะมีสารเคลือบเลนส์มัลติเลเยอร์ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกรองแสง UV ลดแสงสะท้อน ป้องกันรอยขีดข่วน หรือการเพิ่มความคมชัด ดังนั้นหากสารเคลือบนี้มีการหลุดลอก หรือเสื่อมตามสภาพ ความคมชัดของเลนส์แว่นตาก็จะลดลง หรืออาจจะทำให้เกิดความรำคาญตาเวลาใช้แว่นไปเลย จึงจำเป็นที่จะต้องตัดเลนส์สายตาคู่ใหม่
สาเหตุที่ทำให้ผิวเคลือบเลนส์เสื่อม สาเหตุหลักๆ คือ ฝุ่น คราบน้ำ หรือคราบเหงื่อของเรานี่เอง และอีกอย่างคือ "สเปรย์แอลกอฮออล์ค่ะ"
ฝุ่นบางประเภทจะมีลักษณะคม พอมันคมและไปอยู่บนเลนส์ของเรา เมื่อเราเช็ดเลนส์ถูไปมา ฝุ่นที่คมๆ ก็จะไปขูดขีดกับเลนส์ทำให้มีรอยขนแมวเล็กๆที่เลนส์ และพัฒนากลายเป็นรอยใหญ่ได้เลยค่ะ
หากไม่อยากให้ผิวเคลือบเลนส์เสื่อมเร็ว ควรปัดฝุ่นที่ผ้าก่อน แล้วค่อยมาปัดฝุ่นที่เลนส์ และอย่าลืมซักผ้าบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมที่ตัวผ้า
ส่วนคราบน้ำ จะมาในบางวันที่ฝนตก หรือทำกับข้าว หรือออกกำลังกาย แล้วมีละอองน้ำมาเกาะบนผิวเลนส์ ถ้าเราไม่ทำความสะอาด ละอองเหล่านั้นจะกลายเป็นจุดบนผิวเลนส์ที่พอเอามือลูบจะเป็นสะเก็ดๆ บางทีก็ขูดออก บางทีก็ฝังลึกจนเอาไม่ออกค่ะ
ควรล้างแว่นทุกครั้งหลังออกกำลังกาย ทำกับข้าว ไปเที่ยวทะเล เจอฝน
ส่วนสเปรย์แอลกอฮอลล์ ช่วงนี้เราฉีดบ่อยเลย ซึ่งก็เลี่ยงไม่ได้ หากเป็นไปได้ช่วงนี้ก็ล้างแว่นทุกวันจะดีที่สุด เพราะจะช่วยทั้งเรื่อง ฝุ่น คราบน้ำ คราบเหงื่อ และเชื้อแบคทีเรียที่เราไปเจอมาในแต่ละวันด้วยค่ะ
วิธีล้างแว่นตาแบบถูกต้อง ช่วยยืดอายุของผิวเคลือบเลนส์ได้
และ ❌สิ่งต้องห้ามทำโดยเด็ดขาด❌ถ้าไม่อยากให้แว่นพังก่อนเวลา คือ...
และอย่าลืมซักผ้าเช็ดแว่นไมโครไฟเบอร์ เพราะเมื่อคุณใช้งานผ้าไปนานๆ จะมีฝุ่นเข้าไปอยู่ในตัวผ้า และเมื่อคุณนำผ้าไปเช็ดเลนส์ก็เท่ากับนำพาเม็ดฝุ่นเล็กๆ ไปเสียดสีกับพื้นผิวเลนส์มากขึ้น ทำให้เลนส์เกิดรอยได้
นอกเหนือจาก ฝุ่น น้ำ คราบเหงื่อ แล้วยังมีอีกอย่างที่ต้องระวังคือ....
ผิวเคลือบเลนส์แว่นตา บอบบางมากหากโดนสารเคมีและความร้อน เพราะฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงสารเคมี เช่นสเปรย์จัดแต่งทรงผม หรือการเอาแว่นไว้ในรถแล้วจอดตากแดด เพราะหากเจอสารเคมี หรือความร้อน จะทำให้ผิวเคลือบเลนส์เสียไปเลยค่ะ ซึ่งหมายความว่าเลนส์สายตาคู่นั้นก็เสียไปเลยเช่นกัน
3. กรอบแว่นตาชำรุด – กรอบแว่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เพราะหากใช้งานไประยะหนึ่ง อาจมีการเสื่อมสภาพ หรือชำรุด ดังนั้นการเลือกกรอบแว่น และร้านที่พร้อมจะเซอร์วิสดูแลกรอบแว่นหลังการขายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อกรอบแว่นชำรุด แว่นตัวนั้นก็ไม่สามารถใส่ต่อได้อีกต่อไป หากจะทำการแยกเลนส์สายตาออกมาเพื่อไปใส่เข้ากรอบแว่นอันใหม่ ก็เป็นเรื่องยากเพราะเนื่องจากเลนส์ถูกตัดตามทรงแว่นเดิมไปแล้ว หรือหากตัดเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ อาจจะหากรอบแว่นไม่ได้เลยเพราะต้องคำนึงจุดโฟกัสตาของผู้สวมใส่อีกด้วย ดังนั้นเมื่อกรอบแว่นชำรุด นอกจากเปลี่ยนกรอบแว่นแล้ว อาจจะจำเป็นต้องตัดเลนส์เลนส์ชิ้นใหม่ เพื่อให้ให้มีค่าต่างๆ เช่น ค่ากึ่งกลางสายตา ให้ตรงกับกรอบแว่นใหม่และตรงกับมุมแว่นเมื่ออยู่บนหน้าของผู้สวมใส่ นั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือ 3 ปัจจัยหลักๆที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแว่นใหม่ แม้ว่าการเปลี่ยนแว่นใหม่ตามปัจจัยเหล่านี้จะอยู่ได้โดยเฉลี่ย 3-5 ปี แต่หากดูแลพฤติกรรมการใช้สายตาของตัวเอง และดูแลแว่นตาอย่างสม่ำเสมอก็พอช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกค่ะ
หากอยากได้ทั้งแว่นที่มีคุณภาพดี ทนทาน พร้อมเลนส์โปรเกรสซีฟที่ปรับตัวง่าย เหมาะกับทั้งค่าสายตาและไลฟ์สไตล์ของคุณ มาตัดเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพได้ที่ Hogar Vision นะคะ
เรามีนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญพร้อมดูแลคุณในทุกเคส ให้คำปรึกษาในการเลือกเลนส์ เลือกกรอบแว่นให้เหมาะสม ไปจนถึงการดูแลายตาของคุณอย่างตรงจุด โทรปรึกษาเราได้เลยค่ะ
สอบถามเพิ่มเติม หรือนัดตรวจสายตากับ หมอสายตา(ทัศนมาตร)ได้ที่
Line : @hogarvision
โทร 0614936566ทางร้านตั้งอยู่ที่ : ติดถนนศรีนครินทร์ สี่แยกศรีนุช (อ่อนนุช)
https://maps.app.goo.gl/dwBVtHsx71RizTaB8