ข้อควรรู้ก่อนไปตัดแว่น

2 เดือนที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ข้อควรรู้ก่อนไปตัดแว่น

การเตรียมตัวก่อนไปตัดแว่น

1. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5-6 ชม.

2. ควรถอดคอนแท็คเลนส์มาก่อนทำการวัดสายตาอย่างน้อย 30 นาที เพราะการใส่คอนแท็คเลนส์เป็นระยะเวลานาน ส่งผลต่อความโค้งของกระจกตา และ อาการตาแห้งซึ่งอาจทำให้ค่าสายตาที่วัดได้มีความสวิง

3. นำแว่นเดิมที่เคยใช้ติดมาด้วย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการิเคราะห์ การจ่ายค่าสายตา และ การแนะนำเลนส์ให้เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการ

4. เตรียมข้อมูลประวัติโรคประจำตัวที่ท่านมีรวมถึงยาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการซักประวัติเพราะโรคประจำตัวบางโรคส่งผลต่อการมองเห็นและการตรวจวัดสายตา เช่น เบาหวาน ความดัน หรือ ไทรอยด์

5. สังเกตว่าตัวเองมีปัญหาการมองเห็นแบบไหน เช่น มองไกลไม่ชัด มองใกล้ไม่ชัด เห็นภาพซ้อน หรือ มีอาการปวดหัว ปวดตาเวลาใช้สายตา

ข้อมูลเกี่ยวกับเลนส์

1. เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lenses) เลนส์ที่ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นเช่น สายตาสั้น สายตายาวหรือ สายตาเอียง แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปอาจจะมีปัญหาในการมองในระยะไกล และระยะใกล้ จึงจำเป็นต้องเลือกการมองระยะใดระยะหนึ่ง เช่น มองไกล มองใกล้ หรือ ใช้มองคอม

2. เลนส์สองชั้น (Bi-focal Lenses) เลนส์ที่ไว้ใช้สำหรับมองระยะไกลใช้ขับรถ ดูทีวี และ ระยะใกล้ในการอ่านหนังสือ ใช้โทรศัพท์ หรือเขียนหนังสือ ทั้ง 2 ระยะ สำหรับผู้ที่เริ่มมีสายตายาวตามอายุ ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ข้อเสียคือจะมองได้แค่ 2 ระยะ แต่ระยะกลาง หรือ ระยะคอมจะไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเลนส์ Bi-Focal จะมีหลากหลายแบบให้เลือก เช่น Flat Top / Round Top หรือ แบบไร้รอยต่อเพื่อเพิ่มความสวยงามเวลาสวมใส่

3. เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lenses) เลนส์หลายระยะไร้รอยต่อสำหรับผู้ที่มีสายตายาวตามอายุในบุคคลที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ข้อดีของเลนส์โปรเกรสซีฟคือ สามารถมองได้หลากหลายระยะในเลนส์ตัวเดียวอย่าง ระยะไกล ระยะกลาง และระยะใกล้ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้งานแว่นตัวเดียวในชีวิตประวัน

4. เลนส์เฉพาะทาง เป็นเลนส์ที่ใช้สำหรับใส่ทำกกิจกรรมใด กิจกรรมหนึ่งเช่น Office Lenses ที่ใช้สำหรับทำงานหน้าคอมโดยเฉพาะ หรือ Anti fatigue lenses ที่ไว้ใช้สำหรับคนที่มีอาการปวดหัวปวดตาเวลามองในระยะใกล้ สำหรับคนที่อายุน้อยกวา 40 ปีลงไป

Office Lenses หรือเลนส์ใช้ทำงานหน้าโต๊ะทำงาน คือเลนส์ที่เน้นการมองในระยะกลาง และ ระยะใกล้ การใช้งานคล้ายๆเลนส์โปรเกรสซีฟแต่จะไม่สามารถใช้มองในระยะไกลได้ ข้อดีคือจะเน้นโซนมองกลาง และ มองใกล้ให้มีความกว้าง และ ลดภาพบิดเบือนด้านข้างได้ค่อนข้างดีกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ

Anti Fatigue Lenses เลนส์สำหรับบุคคลอายุน้อยกว่า 40 ปีที่มีอาการเมื่อยล้าดวงตา ปวดตาเฉพาะเวลามองใกล้ เช่น ใช้โทรศัพท์ หรือ คอมพิวเตอร์ โดยตัวเลนส์จะเน้นไปที่มองไกลเหมือน Single Vision แต่จะมีค่า Add หรือ ค่าสายตาบวกอ่อนๆ ในโซนมองใกล้เวลาเหลือบตาลงล่างเลนส์ เพื่อช่วยลดการเพ่งในเวลาในระยะใกล้ ซึ่งจะเลือกใช้เลนส์ตัวนี้ต้องผ่านการวัดสายตาโดยนักทัศนมาตรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการตรวจวัดสายตา และ ฟังก์ชั่นการทำงานของกล้ามเนื้อตาก่อน

ประเภทของกรอบแว่น

1. กรอบเต็ม (Full Rim) จะเป็นกรอบเต็มที่สามารถเก็บเลนส์ได้ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการใส่แว่นให้เลนส์ดูไม่หนามากเกินไป

2.กรอบเซาะร่อง (Grooved) กรอบเซาะร่องจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการความเบาของตัวกรอบ และต้องการโชว์ตัวเลนส์ ข้อจำกัดของกรอบประเภทนี้คือต้องใช้เลนส์ย่อบาง Index 1.60 ขึ้นไปเพื่อให้เลนส์มีความเหนียวและป้องกันการกระเทาะของตัวเลนส์เวลาวางหรือกระแทกกับพื้นผิวต่างๆ

3.แว่นไร้กรอบ (Rimless) แว่นไร้กรอบจะมีความหลากหลาย และมีความเบา สามารถทำเลนส์ได้หลากหลายรูปทรง สามารถ custom ได้ตามใจชอบ จึงเหมาะกับบุคคลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นใส่เพื่อแฟชั่น ใส่ทำงาน หรือ ใส่ในชีวิตประจำวันก้สามารถใส่ได้ ขึ้นอยู่กับทรงเลนส์ที่เลือกใช้ แต่ข้อจำกัดของแว่น Rimless ก็คือต้องใช้เลนส์เหนียวพิเศษ ย่อบาง Index 1.60 ขึ้นไปเพื่อป้องกันการกระเทาะของเลนส์เวลาวาง หรือ กระแทกกับพื้นผิวต่างๆ

ประเภทหลักๆของกรอบแว่นจะแบ่งเป็น 3 ประเภทตามข้างต้น แต่จะมีรายละเอียดอื่นๆ ที่เราอยากจะเสริมให้ท่านอีกนิดหนึ่ง

1. วัสดุของกรอบแว่น จะมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละวัสดุก็จะส่งผลต่อน้ำหนัก และ ความแข็งแรงของตัวแว่น

Plastic / Ultem จะมีความเบา และยืดหยุ่นสูง แต่จะไม่ค่อยทนต่อความร้อน
Metal จะมีความแข็งแรงกว่า Plastic สามารถดัดงอได้ และแข็งแรงทนทานแต่จะมีความหนัก สามารถก่อให้เกิดการแพ้ได้
Stainless Steel จะมีความเบากว่า Metal แต่จะมีความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่นได้ค่อนข้างดีกว่า metal
Titanium จะมีความเบามากที่สุดในทุกวัสดุ และ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับดัดได้ง่าย แต่ยังมีความคงทนอยู่จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเบาของกรอบแว่นเวลาใช้ในชีวิตประจำวัน

2. กรอบแว่นที่มีแป้นจมูก และ ไม่มีแป้นจมูก

กรอบแว่นที่มีแป้นจมูกจะมีข้อดีตรงที่ เกาะอยู่บนใบหน้าได้ดีกว่าแบบไม่มีแป้นจมูก และ สามารถปรับดัดบริเวณแป้นจมูกให้เข้ากับสรีระใบหน้าได้จึงเหมาะกับบุคคลทุกประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ
กรอบแว่นที่ไม่มีแป้นจมูก จะเหมาะสำหรับผู้ที่ใส่แว่นแบบมีแป้นจมูกแล้วเจ็บบริเวณดั้งจมูก แว่นแบบไม่มีแป้นจะใส่ได้สบายมากกว่าแบบมีแป้นจมูก แต่ข้อเสียคือจะแว่นจะไม่ค่อยเกาะอยู่บนใบหน้าเวลามีเหงื่อ

Option ของเลนส์แต่ละแบบ

1. การย่อบางเลนส์ (Index) การย่อบางเลนส์จะเรียกเป็น Index (ค่าดัชนีหักเหในพื้นผิวต่างๆ) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัสดุของเลนส์ โดยจะมีตั้งแต่ index 1.50 1.60 1.67 และ 1.74 เรียงจากความหนาไปบางตามลำดับ

2. ผิวเคลือบเลนส์ (Coating) จะเป็นผิวเคลือบเลนส์ที่เอาไว้ปกป้องสิ่งต่างๆอยู่บนบริเวณผิวเลนส์ โดยการเคลือบสารเคมีที่ตัวเลนส์

Multicoat ผิวเคลือบเลนส์หลายชั้นซึ่งแต่ละชั้นจะมีคุณสมบัติต่างกัน แต่คุณสมบัติหลักๆคือ ป้องกันรังสี UV ,ป้องกันรอยขีดข่วน ,ป้องกันลายนิ้วมือ ,ป้องกันแสงสะท้อนที่ผ่านตัวเลนส์เข้าสู่ดวงตา หรือผิวเลนส์ลื่นป้องกันฝุ่นเกาะบนตัวเลนส์
Blue Protection จะเป็นฟังก์ชั่นในการป้องกันแสงฟ้าจากหน้าจอคอมหรืออุปกรณ์ดิจิทัล จะแบ่งเป็น 2 ประเภท 1. ป้องกันแสงสีฟ้าโดยผิวเคลือบเลนส์ จะป้องกันแสงสีฟ้าได้ค่อนข้างดี แต่เลนส์จะมีความติดสีเหลืองเล็กน้อย 2. ป้องกันแสงสีฟ้าในเนื้อเลนส์ จะมีความใสกว่าแบบผิวเคลือบเลนสื สำหรับผู้ที่ต้องการความใสของเลนส์ไม่ติดเหลือง

3. เลนส์ออกแดดเปลี่ยนสี หรือ Auto Lenses / Transition / Photochromic Lenses มีคุณสมบัติเปลี่ยนสีเมื่อเจอรังสี UV ข้างนอกอาคาร หรือ กลางแจ้ง และ จะเปลี่ยนกลับเป็นเลนส์ใส เมื่ออยู่ในอาคาร หรือ ที่ร่ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แสงเวลาออกข้างนอก หรือ ผู้ที่ต้องการลดแสงจ้าแต่ไม่อยากสวมใส่แว่นกันแดด ตัวคุณสมบัติเปลี่ยนสีนี้จะค่อนข้างตอบโจทย์ในการใช้งาน

4. เลนส์ย้อมสี
(Tint Lenses) จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการใส่แฟชั่น หรือ กันแดดโดยเฉพาะ เพราะเวลาย้อมสีแล้วจะเป็นเลนส์ที่ติดสีย้อมนั้นตลอดเวลา สำหรับผู้ที่ต้องการใส่กันแดด หรือ ใส่เพื่อลดแสงเวลาขับรถ จึงเหมาะกับคุณสมบัตินี้

และนี่เป็นบทความที่ทาง Hogar Vision นำมาเป็นข้อมูลในการเตรียมตัวก่อนไปวัดสายตาเพื่อให้ทุกท่านได้ประหยัดเวลาในการเลือกกรอบแว่นและเลนส์ หรือ ข้อมูลต่างๆเพื่อให้ได้รับการตรวจวัดสายตาที่ละเอียด และแม่นยำมากที่สุด ทางเราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อย

ทางร้าน Hogar Vision มีทีมคุณหมอทัศนมาตรที่มีประสบการณ์ และวัดสายตาอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตรวจเช็คสุขภาพตาเบื้องต้น และ มีเลนส์ทุกประเภทหลากหลายแบรนด์ และสำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟทางร้านมีเลนส์โปรเกรสซีฟให้ทดลองก่อนใช้งานจริง

พบกับเราได้ที่ SHOP HOGAR VISION

อาคารพาณิชย์ เลขที่875 ถนนศรีนครินทร์ สี่แยกอ่อนนุช เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กทม. 10250
แผนที่การเดินทาง : https://maps.app.goo.gl/dwBVtHsx71RizTaB8

โทร : 0614936566
Line id : @hogarvision

Hogar Vision

สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ

บัตรประชาชน

บุ๊คแบ๊งค์

คุ้มครองโดยLnwPay

ธ.กสิกรไทย

เราคัดเลือกกรอบแว่นที่หลากหลายแบบ หลากหลายทรง หลายสไตล์ มีทั้งแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและแบรนด์ใหม่
ภายใต้คอนเซ็ปที่เราคัดเลือกมาแล้วจะต้องมีคุณภาพ ความพิเศษและเรื่องราวที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพื่อให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกที่ดีที่สุด ได้สไตล์ที่เป็นตัวเองมากที่สุด

Hogar Vision ร้านแว่นตา ตรวจวัดสายตาโดยนักทัศมาตร เพื่อให้ได้การมองเห็นด้วยแว่นสายตาที่ดีที่สุดพร้อมให้บริการ เครื่องมือทันสมัยและใช้เลนส์คุณภาพสูง
พร้อมกรอบแว่นแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ของแท้พร้อม Certificated การรับประกันสินค้าทั้งกรอบแว่นและเลนส์แว่นตา

ร้านค้าออนไลน์ Inspired by LnwShop.com (v2)

ตะกร้า

( 0 )

▲

▼

รายการสั่งซื้อของฉัน

เข้าสู่ระบบด้วย