ต้องรู้ก่อนตัดแว่น! เลนส์สายตามีแบบไหนบ้าง? เลือกแบบไหนดี?
เลนส์สายตามีหลายแบบ หลายออฟชั่นเยอะมาก ร้านแว่นตา Hogar Vision ขอรวบรวมข้อมูลออฟชั่นต่างๆของเลนส์สายตา ไว้ให้สำหรับคนที่กำลังจะตัดแว่นสายตาค่ะ
ผิวเคลือบเลนส์แบบต่างๆ (coating)
1. เลนส์ Multicoat
ทุกคนคงเคยได้ยินผิวเคลือบเลนส์นี้อย่างแน่นอน เพราะ Multicoat นี้มีมานานแล้ว ซึ่งเลนส์มัลติโค้ทนี้ มาจากคำว่า Mutilayer Coating คือผิวเคลือบหลายชั้นนั่นเอง เพื่อให้เลนส์นั้นๆมีคุณสมบัติที่ดีขึ้น อายุการใช้งานยาวนานขึ้น

โดยคุณสมบัติของเลนส์มัลติโค๊ท มีหลากหลายคุณสมบัติ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 คุณสมบัติและเทคโนโลยีการเคลือบที่ทำให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติเหล่านั้นดังนี้
- Anti-reflection lens ช่วยตัดแสงสะท้อนบนผิวเลนส์ ได้ถึง 99%
- Light transmission ช่วยให้แสงผ่านได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความคมชัดในการมองเห็น
- UV Rays Block การปกป้องดวงตาจากรังสี UV ได้ถึง 100% ที่ 400 นาโนเมตร
- Hard Coat เพิ่มความแข็งแรงของผิวเลนส์ และลดการเกิดรอยขีดข่วนที่ผิวเลนส์
- Water resistance properties ลดการเกาะตัวของหยดน้ำและคราบสกปรกบนผิวเลนส์
2. เลนส์ Blue Block (Anti-Blue Ray Coating)
ผิวเคลือบกรองแสงสีฟ้า พัฒนามาจากผิวเคลือบแบบ Muticoat โดยมีคุณสมบัติการป้องกันแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาเพิ่มขึ้นมา สามารถป้องกันแสงสีฟ้าที่มาจากจออุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ เช่น จอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ ไอแพด แท็บเล็ต จอโทรทัศน์ หลอดไฟLED หรือแสงสีฟ้าจากธรรมชาติ ที่มีความยาวคลื่น 380-500 นาโนเมตร ไม่ให้เข้าสู่ดวงตาของเราค่ะ

เลนส์บลูบล็อค จำเป็นกับคนที่ใช้งานหน้าจอเป็นเวลานาน หรือคนที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ดิจิตอลเป็นประจำ หลายชั่วโมงต่อวัน เพื่อเป็นการป้องกันแสงสีฟ้าที่จะเข้าสู่ดวงตามากกว่าปกติ อย่างไรก็ตามเลนส์บลูบล็อคก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ดังต่อไปนี้
ข้อดีของเลนส์บลูบล็อก
- เลนส์บลูบล็อค สามารถลดแสงสีฟ้าที่จะเข้าสู่ตาของเรา
- ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ
- ช่วยให้เราสบายตาขึ้นเวลาอยู่หน้าจอต่างๆ
- ช่วยลดอาการตาแห้ง
- ช่วยให้เราใช้งานหน้าจอได้นานขึ้น
ข้อเสียของเลนส์บลูบล็อก บางยี่ห้อเลนส์ติดสีเหลือง ทำให้มองเห็นสีผิดเพี้ยน ไม่เหมาะกับอาชีพบางอาชีพ เช่น กราฟิกดีไซน์เนอร์
3. เลนส์เปลี่ยนสี (Photochromic Lenses)
เลนส์เปลี่ยนสี หรือเลนส์โฟโตโครมิค (Photochromic Lens) เป็นเลนส์ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีจากใสเป็นเข้มขึ้นเมื่ออยู่กลางแจ้ง เนื่องจากเลนส์ถูกรังสี UV จากแสงแดดส่องลงมาผ่านแว่นของเรานั่นเองค่ะ โดยสีคาร์บอนที่อยู่ในเนื้อเลนส์จะถูกกระตุ้นให้เกิดเป็นสีที่เข้มขึ้น และทำหน้าที่เหมือนกับแว่นกันแดด
ผู้ที่มีปัญหาสายตา หรือผู้ที่ใส่แว่นสายตาจึงนิยมตัดเลนส์เปลี่ยนสีเพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้น รวมทั้งยังไม่ปวดตาและไม่แสบตาเมื่อแสง UV สะท้อนกระทบแว่นอีกด้วยค่ะ
ลักษณะการทำงานของเลนส์เปลี่ยนสี
เลนส์เปลี่ยนสีจะมีลักษณะดูเหมือนเลนส์ใสทั่วๆไปหากสวมใส่ขณะอยู่ในอาคาร แต่จะปรับสีเข้มขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการนำออกไปสู่บริเวณที่มีแสงจ้า โดยที่รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงอาทิตย์ จะทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของเลนส์ และทำให้เกิดการเปลี่ยนสีเพื่อถนอมสายตา
ประโยชน์ของเลนส์เปลี่ยนสีมีอะไรบ้าง?
- ช่วยลดความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อตา ลดอาการปวดล้า ปวดตา
- ช่วยลดความเสียหายต่อดวงตา และโอกาสเสี่ยงต่อโรคต้อกระจกที่จะสูงขึ้นตามอายุ
- ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เพราะไม่ต้องพกพาแว่นหลายอัน และไม่ต้องคอยสลับใส่ระหว่างแว่น 2 อันอีกด้วยค่ะ
- ช่วยประหยัดเงิน เพราะถึงแม้ว่าการตัดเลนส์เปลี่ยนสีอาจมีราคาแพงกว่าแว่นทั่วไป แต่เลนส์ประเภทนี้สามารถทำหน้าที่ได้ 2 อย่าง จึงถือเป็นการช่วยคุณประหยัดเงินได้อย่างแน่นอนค่ะ
4. เลนส์ย้อมสี (Tinting Lenses)
เลนส์ย้อมสี คือเลนส์ที่ผ่านการเคลือบสี จากสีใสกลายเป็นสีต่างๆ เพื่อคุณสมบัติในการลดความจ้าของแสง ช่วยให้สบายตามากยิ่งขึ้นหรือปกป้องอันตรายของแสงต่อดวงตาเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดด ดังนั้นเลนส์ย้อมสีก็คือเลนส์กันแดดนั่นเอง โดยแว่นตาที่สามารถย้อมสีเลนส์ได้ก็จะมีทั้งเลนส์แบบมีค่าสายตา ที่เรียกว่าแว่นสายตาย้อมสี และแบบไม่มีค่าสายตาที่อาจไว้ใช้สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เล่นกีฬา ขับรถ กันแดด แฟชั่น เป็นต้น

เลนส์ย้อมสีแต่ละสีมีคุณสมบัติอย่างไร?
เลนส์ย้อมสีมีสีที่นำมาย้อมหลากหลายสี โดยแต่ละสีก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลัก ๆ แล้วสีที่นิยมนำมาย้อมสีเลนส์จะประกอบไปด้วย 5 สีหลัก ได้แก่
- เลนส์สีเทา (Gray) เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นสีที่มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด เพียงแต่ทำหน้าที่ในการลดแสงลงเพื่อเพิ่มความสบายตาและปกป้องดวงตาจากแสงอาทิตย์ และรังสีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา โดยเหมาะกับการสวมใส่เพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้เป็นแว่นขับรถในเวลากลางวัน
- เลนส์สีน้ำตาล (Brown) เป็นสีที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากสีเทา เป็นสีที่ช่วยเพิ่มความคมชัดในการมองเห็นแสงในที่มีแสงสว่างน้อย
- เลนส์สีเขียว (Green) เป็นสีที่มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับเลนส์สีเทา แต่จะมีความเป็นสีแฟชั่นมากกว่าเล็กน้อย และสีที่มองเห็นอาจผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย จะเหมาะสำหรับการเล่นกีฬากลางแจ้ง
- เลนส์สีน้ำเงิน (Blue) เป็นสีที่ช่วยดูดซับแสงสีเหลืองได้ดี เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่มีข้อเสียคืออาจทำให้การมองเห็นสีผิดเพี้ยนไป
- เลนส์สีเหลือง (Yellow) เป็นสีที่ช่วยดูดซับแสงสีฟ้า และช่วยเพิ่มแสงให้สว่างมากขึ้น เหมาะกับสวมใส่เพื่อป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือขับรถเวลากลางคืน
ข้อดีของเลนส์ย้อมสี เลนส์ย้อมสีมีทั้งข้อดีและข้อเสียหรือข้อจำกัด โดยข้อดีของเลนส์ย้อมสีมีอยู่หลากหลายประการด้วยกัน เช่น
- ช่วยลดแสงจ้าทำให้สบายตามากขึ้นเมื่ออยู่ในที่ที่มีแสงมาก
- ช่วยป้องกันรังสี UV
- ช่วยป้องกันแสงสีฟ้า
- มีความสวยงาม เหมาะกับการเป็นแว่นตาแฟชั่น
- มีทั้งแว่นแบบมีค่าสายตาและไม่มีค่าสายตา เป็นต้น
ข้อเสียหรือข้อจำกัดของเลนส์ย้อมสี ส่วนข้อเสียหรือข้อจำกัดของเลนส์ย้อมสีนั้น หลัก ๆ จะมีอยู่ 3 ประการ คือ
- ไม่สามารถใช้ได้ในที่ที่มีแสงน้อย หรือใช้ได้แต่ทำให้การมองเห็นมีความมืดจนเกินไป
- ไม่เหมาะกับการใช้ในทุกกิจกรรมและทุกวันเวลาอาจต้องมีแว่นหลายอัน
- สีของเลนส์อาจทำให้ไม่เหมาะกับบางโอกาสโดยเฉพาะกับกิจกรรมที่ต้องอาศัยความเป็นทางการ
ทั้งหมดนี้คือ Option ของผิวเคลือบเลนส์สายตา สามารถเลือกได้ตามความต้องการใช้งานได้เลยค่ะ ในแต่ละ Option จะมีราคาแตกต่างกันตามยี่ห้อเลนส์ และโปรโมชั่นช่วงนั้นๆค่ะ และอีก Option นึงของเลนส์สายตาคือ เลนส์ย่อบาง(High index lenses)
เลนส์ย่อบางคืออะไร?
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นมากๆ สายตาเอียงมากๆ หรือสายตายาวมากๆ หากเป็นในอดีต ก่อนที่จะมีเลนส์ย่อบางปัญหาที่กลุ่มคนเหล่านี้ต้องพบเจอ คือ การสวมแว่นที่มีเลนส์มีความหนาจนเกินไป ทำให้แว่นมีน้ำหนักมากจนกดทับไปที่จมูกและก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบายในการสวมใส่แว่นสายตา นอกจากนั้นยังทำให้เกิดความไม่สวยงามใส่การสวมใส่แว่นสายตาอีกด้วย แต่ปัจจุบันมีเลนส์ย่อบางที่เข้ามาช่วยให้ผู้ที่สายตาสั้นมาก ๆ และยาวมาก ๆ แก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

เลนส์ย่อบางคือ เลนส์ที่มี Indexสูง ซึ่ง Index ก็คือค่าความหนาบางเลนส์แว่นสายตานั่นเอง โดยหากยิ่งค่า Index มีค่าสูงเลนส์จะยิ่งมีความบางลงเท่านั้น ซึ่งค่าความหนาบางสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ เลนส์ที่มีความหนาบางแบบปกติ ที่มีค่า Index อยู่ที่ 1.50 และเลนส์แบบย่อบางที่มีค่า Index อยู่ที่ 1.6 – 1.76 เป็นเลนส์ที่ถูกออกแบบมาให้มีความบางลง เพื่อให้สามารถนำไปตัดแว่นสายตาที่มีสายตาสั้นมากๆ สายตาเอียงมากๆ หรือสายตายาวมากๆ ได้ แบบไม่ทำให้เลนส์มีความหนาจนเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เลนส์ที่มีความหนาแบบปกติ
เลนส์ย่อบางกับเลนส์ความหนาปกติ มีความแตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่างเลนส์ย่อบาง กับเลนส์ที่มีความหนาปกติสามารถแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างได้จาก 3 ประการ ดังนี้
- ความหนาของเลนส์ เลนส์ย่อบางจะมีความบางกว่าเลนส์แบบปกติเมื่อเทียบกับค่าสายตาที่เท่ากัน
- น้ำหนักของเลนส์ เลนส์ย่อบางจะมีมีน้ำหนักเบากว่าเลนส์แบบปกติเมื่อเทียบกับค่าสายตาที่เท่ากัน
- ราคาของเลนส์ เลนส์แบบปกติจะมีความถูกกว่าเลนส์ย่อบาง โดยที่เลนส์ย่อบางมีราคาสูงกว่าเนื่องจากวัสดุและต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่าในการผลิต
เลนส์ย่อบางมีกี่ขนาดอะไรบ้าง?
เลนส์ย่อบางสามารถแบ่งได้เป็นหลากหลายขนาด โดยหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ขนาดดังนี้
- index 1.56 จะมีความบางลงประมาณ 12% เมื่อเทียบกับเลนส์ความหนาปกติ
- index 1.60 จะมีความบางลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับเลนส์ความหนาปกติ
- index 1.67 จะมีความบางลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ความหนาปกติ
- index 1.74 จะมีความบางลงประมาณ 25% เมื่อเทียบกับเลนส์ความหนาปกติ
- index 1.76 จะมีความบางลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ความหนาปกติ
เลนส์ย่อบางแต่ละขนาดเหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตาเท่าไหร่
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเลนส์ย่อบางแบ่งออกเป็น 4 ขนาดหลัก ๆ โดยแต่ละขนาดเหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตาดังนี้
- index 1.56 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน 2.50 ไดออปเตอร์
- index 1.60 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือยาว 2.50 – 4.00 ไดออปเตอร์
- index 1.67 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือยาว 4.00 – 6.00 ไดออปเตอร์
- index 1.74 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือยาว 6.00 ไดออปเตอร์ ขึ้นไป
- index 1.76 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือยาว 8.00 ไดออปเตอร์ ขึ้นไป
ข้อดีของเลนส์ย่อบาง
- สวมใส่ได้สบายกว่าเลนส์ความหนาปกติ เนื่องจากมีความเบากว่าเมื่อเทียบกับค่าสายตาที่เท่ากัน
- ลดการมองเห็นภาพบิดเบือนจากการสวมแว่นสายตาที่มีเลนส์ที่มีความหนาสูง
- ผู้อื่นสามารถมองเห็นดวงตาและใบหน้าของคุณได้อย่างชัดเจน
- เหมาะสำหรับกรอบเจาะหรือกรอบเซาะร่อง เนื่องจากเลนส์ย่อบางมีวัสดุที่มีความเหนียวกว่าเลนส์ความหนาทั่วไป ทำให้เลนส์แข็งแรง ไม่เปราะแตกง่าย
- ในเลนส์โปรเกรสซีฟที่ต้องใส่ทั้งวัน จะทำให้รู้สึกสบายเมื่อต้องใส่ทั้งวัน
นอกจากเลนส์จะมีคุณสมบัติให้เลือกทั้งผิวเคลือบเลนส์ และความหนาของเลนส์แล้ว ยังมีเรื่องของเทคโนโลยีของเลนส์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นอีกด้วย ซึ่งเลนส์เหล่านี้เรียกว่าเลนส์ LAB หรือก็คือเลนส์ที่สั่งทำใหม่นั่นเอง
ถ้าอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย คือเลนส์แบ่งออกเป็น STOCK กับ LAB เลนส์STOCK คือเลนส์ค่าสายตาต่างๆที่ผลิตเพื่อเก็บไว้รอลูกค้าสั่งแล้ว เมื่อลูกค้าสั่งเลนส์ปุ๊ปจะมีเลนส์ที่เสร็จแล้วพร้อมฝนประกอบใส่กรอบแว่นได้ทันที ส่วนเลนส์ LAB นั้นคือเลนส์สั่งทำใหม่ ลูกค้าสามารถเลือก Option เทคโนโลยีต่างๆของเลนส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นได้ ดังนั้นการมองเห็นผ่านเลนส์LAB จะมีความสบายตามากกว่าเลนส์STOCK อย่างแน่นอน