เลนส์โปรเกรสซีฟสัญชาติเยอรมัน "Rodenstock"

Rodenstock Progressive Lenses

เลนส์โปรเกรสซีฟระดับพรีเมียมของ Rodenstock เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อการมองเห็นที่คมชัดและสบายตาในทุกระยะ โดยมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งระยะใกล้ ระยะกลางและระยะไกล ซึ่งเลนส์โปรเกรสซีฟ คือเลนส์ที่มีการปรับกำลังเลนส์ตามระยะการมองเห็น โดยที่ไม่มีรอยต่อที่สามารถมองเห็นได้ภายในเลนส์ ซึ่งทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟมีจุดเด่นในด้านความสวยงามและสามารถแก้ไขปัญหาทางสายตาได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกลได้ภายในเลนส์เดียว

จุดเด่นเลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock

• ปรับตัวเข้ากับโปรเกรสซีฟได้อย่างรวดเร็ว ด้วยโครงสร้างเลนส์ที่เป็นเฉพาะบุคคล ทำให้ผู้ที่สวมใส่เลนส์โปรเกรสซีฟสามารถปรับตัวเข้ากับเลนส์โปรเกรสซีฟได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
• ให้วิสัยทัศน์การมองเห็นคมชัดตลอดเวลา  ทั้งในระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกล
• ความกว้างในการมองเห็นเหมาะสม  สามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้ เลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock ให้ระยะการมองเห็นที่กว้างขึ้นเพื่อทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม โดยมีการปรับแต่งโครสร้างความกว้างในการมองเห็น (ลานสายตา) ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และลักษณะการใช้งานในแต่ละวันของผู้ที่สวมใส่ ไม่ว่าผู้ที่สวมใส่จะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เช่นบางท่านมีไลฟ์สไตล์ที่เน้นทำกิจกรรมแอ็คทีฟ อยู่กลกลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ หรือมีไลฟ์สไตล์ที่เน้นการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นประจำและใช้เวลาว่างในการดูโทรศัพท์มือถือหรืออ่านหนังสือเป็นเวลานานๆ

•  ลดปัญหาภาพ “วูบวาบ” ด้านข้าง ในเลนส์โปรเกรสซีฟจะไม่ปรากฎเส้นและมองเห็นชั้นที่บิดเบี้ยวหรือพร่ามัวในบริเวณขอบรอบนอกน้อยมาก ทำให้ภาพวูบวาบในเลนส์โปรเรสซีฟรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ที่สวมใส่น้อยมาก ในส่วนของภาพบิดเบือน (Distortion) ที่เกิดขึ้นด้ายข้างของเลนส์ ขนาดของภาพบิดเบือนจะแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของเลนส์ ยิ่งถ้าหากเลนส์ที่มีเทคโนโลยีสูงๆ โซนภาพบิดเบือนด้านข้างเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีขนาดเล็กลง

• ลดการสะท้อนและมีรูปทรงสวยงาม  เพื่อการมองเห็นที่คมชัดและภาพลักษณ์ที่สวยงาม
• ให้การปกป้องดวงตาจากรังสี UV 100% และแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย
• ใหการรับรู้ความตื้นลึกและการกะระยะได้ดีเยี่ยมในการมองผ่านเลนส์

จากเลนส์โปรเกรสซีฟสู่ PROGRESSIVE B.I.G. NORM

เทคโนโลยีในเลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock (Rodenstock Technology)

1. Variable Inset เทคโนโลยีการออกแบบ Inset หรือระยะการเหลือบให้เหมาะสมกับการเหลือบของตาขณะมองในระยะต่างๆ โดยคำนวณ Inset จากค่าสายตาและค่า Addition (ค่าสายตายาวตามวัย) ส่งผลให้ระยะกลางและระยะใกล้กว้างขึ้น เนื่องจากลูกตาเคลื่อนที่อยู่ตรงกลาโซนใช้งานได้ตลอดเวลา

2. Wavefront Technology and Retina Focus Principle เทคโนโลยีคำนวณระดับสูง ที่นำมาประยุกต์ใช้ในเทคโนโลยีต่างๆ ในการออกแบบและลิตเลนส์ที่ต้องการความละเอียด เช่นการทำเลนส์โปรเกรสซีฟ เพราะสามารถช่วยจัดการความคลาดเคลื่อนขอแสงได้อย่างมีระสิทธิภาพ และสามารถชดเชยตัวแปรต่างๆ โดยคำนวณอ้างิงจากตำแหน่งการสวมใส่จริง ทำให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้นและลดอาการเมื่อยล้าตาเมื่อใชสายตานานๆ

3. High Order Aberration Consideration (HOA) การาชดเชยหรือการลดความคลาดเคลื่อนของการหักเหระดับสูงทั้งบนเลนส์และในตา โดยใช้เทคโนโลยี Wavefront มาคำนวณร่วมกับขนาดรูม่านตา เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดทั้งในกลางวันและกลางคืน

4. 3D Freeform เทคโนโลยีการขัดเลนส์แบบใหม่ที่มีอิสระในการออกแบบระดับสูง โดยใช้หัดขัดที่มีขนาดเล็กระดับไมครอนและควบคุมการขัดเลนส์ผ่านซฟแวร์บนคอมพิวเตอร์ ทำให้มีความแม่นยำ ถูกต้องตามรายละเอียดของแต่ละบุคคล

5. EyeLT Technology เทคโนโลยีที่มีเฉพาะในเลนส์ Rodenstock ซึ่งก้าวข้ามขีดจำกัดของกรผลิตเลนส์แบบเดิม ๆ โดยมีการชดเชยค่าสายตาเอียงและองศาเอียงที่เปลี่ยนไปขณะมองใกล้ ทำให้การมองระยะกลางและระยะใกล้คมชัดขึ้นและยังให้มุมมองกว้างขึ้น 25% เมื่อเทียบกับเลนส์ทั่วไป

6. Spherical Optimization เทคโนโลยีในการลด Base Curve Effect  ด้วยการนำเอาค่าสายตาสั้น-ยาว-เอียง มาคำนวณร่วมกับความโค้งหน้าเลนส์ (Base Curve) เพื่อคำนวณหาความคลาดเคลื่อนขอค่าสายตาจาก Base Curve Effect  และทำการชดเชยหรือกำจัดความคลาดเคลื่อนนั้น ทำให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่ดีเยี่ยมทุกค่าสายตา

7. AI Technology การสร้างแบบจำลองดวงตาไบโอเมตริกที่ใกล้เคียงกับดวงตาจริงของผู้ที่สวมใส่ โดยใช้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลต่างๆ และส่งต่อไปยังระบบัลกอริทึม AI ขั้นสูง ที่ใช้ข้อมูลเพียงแค่ข้อมูลจากใบสั่งเลนส์ตามมาตรฐาน เพื่อให้การมองผ่านเลนส์โปรเกรสซีฟที่คมชัดและสบายตามากยิ่งขึ้น

8. PD Optimize Inset เทคโนโลยีการคำนวณออกแบบ Inset ของโครงสร้างโปรเกรสซีฟ ให้เหมาะสมกับการเหลือบมองระยะกลางและระยะใกล้ของแต่ละบุคคล ทำให้ได้พื้นที่การใช้งานระย่างๆ กว้างขึ้น และใช้งานเป็นธรรมชาตากขึ้น

9. Power Customization เทคโนโลยีการคำนวณออกแบบโครงสร้างเลนส์ โดยคำนวณจากตัวแปรค่าต่างๆจริงของบุคคลนั้น เช่น ค่าสายตา, ค่า Addition, ค่า PD, ค่าพารามิเตอร์กรอบแว่น (ค่าความโค้งหน้าแว่น, ความเทหน้าแว่น, ระยะห่างหน้าแว่น) เพื่อหาโครงสร้างที่ดีที่สุด จากนั้นนำไปขัดเลนส์ด้วยเทคโนโลยี Freeform เพื่อให้ได้โครงสร้างที่ดีเยี่ยมในทุกค่าสายตา 

10. Individual Parameter เทคโนโลยีการอกแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างเฉพาะบุคคล โดยการนำค่าต่างๆที่มีผลต่อการออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟ เช่น ค่าความโค้งหน้าแว่น, ความเทหน้าแว่น, ระยะห่างหน้าแว่น, PD แยกข้างของแต่ละตา, ลักษณะกรอบแว่น มาร่วมออกแบบโครงสร้างให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ได้โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับลักษณะกรอบแว่นนั้นๆ แม้จะเป็นกรอบโค้งก็ตาม

11. Design Technology เทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้างเลนส์ ที่ผู้สวมใส่สามารถดีไซน์ออกแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟได้ละเอียดถึง 0.1 mm./step เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะทำกิจกรรมกลางแจ้ง, ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์, ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ หรือสามารถเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เฉพาะเจาะเจง เช่น เน้นขับรถ, เล่นกีฬาหรือต้องเคลื่อนไหวเยอะๆ, เน้นทำงานกับระยะใกล้ ทำให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมตามความต้องกรของเฉพาะบุคคลนั้น


รุ่นของเลนส์โปรเกรสซีฟ B.I.G. NORM

Progressive Impression B.I.G. NORM           
            เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นสูงสุดของ Rodenstock เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาค่อนข้างซับซ้อน สายตาสั้นมาก เอียงมาก หรือสายตายาวมาก และสายตาสองข้างต่างกันมาก เนื่องจากรุ่น Impression B.I.G. NORM มีการนำเทคโนโลยีมากมายดังรูปด้านบนมาร่วมพัฒนาและออกแบบโครงสร้างในเลนส์ ซึ่งเทคโนโลยีเด่นที่ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟ Impression B.I.G. NORM เป็นเลนส์ระดับไฮเอนด์ คือ Design Technology ที่สามารถให้ผู้ที่ใช้งานสามารถดีไซน์ปรับแต่งออกแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟตามลักษณะการใช้งานจริงของผู้ที่สวมใส่และสามารถเลือกกรอบแว่นตาทำเลนส์โปรเกรสซีฟได้ย่างอิสระ เนื่องจากในเลนส์รุ่นนี้จะนำค่าสายตา จุดโฟกัสของตาทั้งสองข้าง ค่าพารามิเตอร์กรอบแว่น เช่น ค่าความโค้งหน้าแว่น, มุมเทหน้าแว่น, ระยะห่างจากหน้าแว่นถึงดวงตา มาร่วมคำนวนขัดเลนส์ด้วย และมีเทคโนโลยี AI ขั้นสูงที่สร้างแบบจำลองดวงตาไบโอเมตริกให้ใกล้คียงกับดวงตาจริงของผู้สวมใส่มาใช้ในการคำนวนโครงสร้างเลนส์ เพื่อให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่เฉพาะบุคคลให้ความคมชัดและความสบายตาในทุกระยะ ปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟได้ง่าย 

เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่น Impression B.I.G. NORM มีให้เลือกถึง 6 Type ตามลักษณะการใช้งานของผู้สวมใส่

• Individual เป็นการออกแบบปรับแต่งเลนส์เฉพาะบุคคล สามารถดีไซน์โครงสร้างเลนส์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน เพื่อให้ได้มุมมองที่คมชัดและสบายตามากที่สุด
  
• Active เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ เน้นการแอ็คทีฟหรือการเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะ เช่น ออกกำลังกาย, ตีกอล์ฟ, ปีนเขา โครงสร้างเลนส์จะเน้นการมองเห็นระยะกลางและระยะใกล้เป็นหลักและช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้างเลนส์เป็นพิเศษ 
• Expert เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทำกิจกรรมระยะใกล้ค่อนข้างเยอะ เน้นการมองเห็นระยะใกล้เนหลัก เช่น Engineer softwere, เขียนแบบ, วาดรูป, ดูโทรศัพท์มือถือ
• Sport เลนส์โปรเกรสซีฟที่แบบมาเฉพาะสำหรับผู้ที่เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยโครงสร้างเลนส์จะออกแบบให้เหมาะสมกับกรอบแว่นที่ค่อนข้างโค้งมากกว่าปกติ ทำให้มุมมองการมองเห็นดูเป็นธรรมชาติแม้จะเป็นกรอบแว่นโค้งก็ตาม
• Road เลนส์โปรเกรสซีฟที่ออกแบบมาพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถเป็นหลัก ต้องการการมองเห็นระยะไกลที่กว้างและการปรับเปลี่ยนโฟกัสจากระยะไกลมามองระยะกลาง (คอลโซลรถ) การหันศีรษะดูกระจกข้าง จะทำให้การปรับเปลี่ยนโฟกัสและการหันศีรษะเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ
• Allround เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆไป เน้นการมองเห็นทั้งสามระยะ ทั้งระยะไกล ระยะกลาง ระยะใกล้ ไม่ได้เน้นระยะใดระยะหนึ่งเป็นพิเศษ

Progressive Multigressiv B.I.G. NORM
             เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นรองลงมา รุ่นรองท็อป เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสองข้างต่างกัน ค่าสายตาปานกลางถึงมาก จุดโฟกัสตา (PD) สองข้างต่างกัน เนื่องจากรุ่น Multigressiv B.I.G. NORM มีการนำเทคโนโลยีต่างๆมากมายดังรูปด้านบนมาร่วมพัฒนาและออกแบบโครงสร้างในเลนส์ ซึ่งเทคโนโลยีเด่นที่ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟ Multigressiv B.I.G. NORM เป็นเลนส์ที่ทางเราอยากแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มใส่เลนส์โปรเกรสซีฟหรือผู้ที่เคยใส่เลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อน คือ เทคโนโลยี Power Customization ที่นำค่าสายตา, ค่า Addition (ค่าสายตายาวตามวัย), ค่าจุดโฟกัสตา (PD) ร่วมกับนำเทคโนโลยี AI ข้้นสูง มาคำนวณออกแบบโครงสร้างเลนส์ เพื่อหาโครงสร้างที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ผู้ที่สวมใส่ ทำให้ใส่สบายในทุกค่าสายตา

เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่น Multigressiv B.I.G. NORM มีให้เลือกถึง 4 Type ตามลักษณะการใช้งานของผู้สวมใส่

•          Active เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ เน้นการแอ็คทีฟหรือการเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะ เช่น ออกกำลังกาย, ตีกอล์ฟ, ปีนเขา โครงสร้างเลนส์จะเน้นการมองเห็นระยะกลางและระยะใกล้เป็นหลักและช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้างเลนส์เป็นพิเศษ 
•     Expert เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทำกิจกรรมระยะใกล้ค่อนข้างเยอะ เน้นการมองเห็นระยะใกล้เนหลัก เช่น Engineer softwere, เขียนแบบ, วาดรูป, ดูโทรศัพท์มือถือ
•     Road เลนส์โปรเกรสซีฟที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถเป็นหลัก ต้องการการมองเห็นระยะไกลที่กว้างและการปรับเปลี่ยนโฟกัสจากระยะไกลมามองระยะกลาง (คอลโซลรถ) การหันศีรษะดูกระจกข้างได้อย่างเป็นธรรมชาติ
•     Allround เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆไป เน้นการมองเห็นทั้งสามระยะ ทั้งระยะไกล ระยะกลาง ระยะใกล้ ไม่ได้เน้นระยะใดระยะหนึ่งเป็นพิเศษ

Progressive Progressiv B.I.G. NORM
             เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นเริ่มต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาน้อยจนถึงปานกลาง ค่าสายตาสั้น ยาว เอียงน้อยๆ ค่าสายตาไม่ซับซ้อน มีจุดโฟกัสตา (PD) สองข้างใกล้คียงกับค่ามาตรฐาน เนื่องจากรุ่น Progressiv B.I.G. NORM มีการนำเทคโนโลยีดังรูปด้านบนมาร่วมพัฒนาและออกแบบโครงสร้างในเลนส์ ซึ่งเทคโนโลยีเด่นที่ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟ Progressiv B.I.G. NORM เป็นเลนส์ที่เหมาะกับผู้ที่อยากเริ่มใส่โปรเกรสซีฟและมีค่าสายตายาวเริ่นต้น คือ Spherical Optimization และ เทคโนโลยี AI ข้้นสูง

เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่น Progressiv B.I.G. NORM มีให้เลือกถึง 2 Type ตามลักษณะการใช้งานของผู้สวมใส่

•          Allround V เหมาะสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆไป เน้นการมองเห็นทั้งสามระยะ ทั้งระยะไกล ระยะกลาง ระยะใกล้ ไม่ได้เน้นระยะใดระยะหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ใน type Allround V โปรแกรมจะ Varies ระยะการเหลือบให้ตามความเหมาะสม
•      Allround (S,M,L) เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆไป เช่นเดียวกับ Allround V แต่ type นี้ สามารถเลือกระยะการเหลือบตาหรือคอริดอร์ ให้ตอบโจทย์ตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้งานจริง