"RODENSTOCK เลนส์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศเยอรมัน"
Rodenstock เป็นผู้นำวงการผลิตภัณฑ์ดูแลสายตาและเป็นผู้ผลิตเลนส์ชั้นนำระดับโลก โดยมีการก่อตั้งและมีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 146 ปี ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลสายตาที่ทันสมัยและมีคุณภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการมองเห็นของทุกคนและเพื่อตอบโจทย์กับผู้ที่สวมใส่แว่นสายตาได้มากขึ้น
ณ ปัจจุบัน Rodenstock ประสบความสำเร็จในด้านการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัยและปรัชญาที่เป็นเอกลักษณ์ของ Rodenstock คือ B.I.G. VISION™ เพราะทาง Rodenstock มองเห็นถึงถึงความแตกต่างของดวงตา ที่ทุกดวงมีความแตกต่างกัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทาง Rdenstock ตรวจวัดค่าสายตาเฉพาะบุคคลโดยใช้ข้อมูลนับพันจุดมาผลิตเป็นแว่นสายตาที่เหมาะสมเฉพาะเจ้าของสายตาจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีความแม่นยำทางไบโอเมตริก จึงทำให้ Rodenstock เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการมองเห็นอย่างทุกวันนี้และเป็นแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์เลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพเยี่ยมที่สุดเพื่อทุกคน
RODENSTOCK STORY : ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ผู้ผลิตและพัฒนาเลนส์
📍ปี 1877 Rodenstock ถูกก่อตั้งเป็นบริษัท “Optisches Institut G. Rodenstock” ขึ้นในเมือง Würzburg โดย Josef Rodenstock ร่วมกับ Michael ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งบริษัท Rodenstock เริ่มดำเนินกิจการในปี 1878 โดยมีการจำหน่ายทั้งเลนส์ กรอบแว่น รวมถึงเครื่องมือวัดที่ทางบริษัทออกแบบขึ้นเอง
📍ปี 1899 จนถึง ปี 1968 Rodenstock ผลิตเลนส์กันแดดชิ้นแรกที่สั่งทำได้ตามความต้องการ พร้อมการป้องกันรังสี UV นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดตัวเลนส์สองชั้นตัวแรกที่มีพื้นที่การมองระยะใกล้ดีเยี่ยม และยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแว่นไร้กรอบ แว่นตาแบบขาหนีบจมูก แว่นขาเดียว รวมถึงกรอบแว่นทำจากเหล็กกล้า นิกเกิล ดูเบล (Doublé) และวัสดุอื่นๆ ซึ่งหลังจากนั้นในปีต่อๆมา Rodenstock ก็ยังคงพัฒนาเลนส์และกรอบแว่นอย่างต่อเนื่อง เช่น เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ (Phototropic), เลนส์พลาสติก, เลนส์เปลี่ยนสีชนิดพลาสติก, เลนส์พลาสติกชนิดหักเหสูง, เลนส์แอสเฟียริค (Aspheric), เลนส์พลาสติกสองชั้นตัวแรกของโลก
📍ปี 1981 Rodenstock นำเสนอเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทในประเทศเยอรมนีภายใต้ชื่อ “Progressiv R” ซึ่งประสบความสำเร็จในทันทีด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่งในขณะนั้น
📍ปี 2000 Rodenstock ได้พัฒนาเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลตัวแรกของโลกที่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมการมองเห็นของแต่ละคนได้ 100% เรียกว่า “ImpressionILT”
📍ปี 2006 ได้เปิดตัวเครื่องวัดพารามิเตอร์ตา ที่เรียกว่า “ImpressionIST® Service Terminal” คือตัวกำหนดพารามิเตอร์ต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งแว่นตาที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งการให้คำปรึกษาเรื่องเลนส์หรือแว่นตา รวมถึงระบบวัดสายตาด้วยวิดีโอสามมิติ นี่คือสิ่งที่ผลักดันให้ Rodenstock บุกเบิกตลาดใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมแว่นตา รวมถึงแนวคิดด้านการบริการอื่นๆ
📍ปี 2011 Rodenstock สร้างเลนส์เทคโนโลยี Eye Lens Technology (EyeLT®) สำเร็จเป็นรายแรกของโลก: ให้ผู้ใช้เปิดศักยภาพแห่งวิสัยทัศน์ได้เต็ม 100% เป็นครั้งแรกกับเลนส์ Impression® เทคโนโลยี DNEye®
ตั้งแต่ปี 1900 การตรวจวัดสายตาอาศัยเพียงการคำนวณจากแบบจำลองดวงตาด้วยวิธีเดิมๆ ที่เรียกว่า Reduced Eye ซึ่งสวนทางกับเทคโนโลยีของเลนส์ที่พัฒนาไปไม่หยุดยั้งโรเด้นสต๊อกคือผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลง จากการตรวจวัดสายตาแบบเดิมที่ใช้ร่วมกันยาวนานกว่า 118 ปี สู่เทคโนโลยี DNEye Pro Technology ที่วัดกายวิภาคศาสตร์ของแต่ละดวงตา ถ่ายโอนข้อมูลสู่การผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล ผลลัพธ์คือได้เลนส์ที่คมชัดที่สุดจากโรเด้นสต๊อก เพื่อวิสัยทัศน์ที่คมชัดทุกช่วงเวลา
📍จนกระทั่งในปี 2020 Rodenstock เปิดตัวปรัชญาใหม่ขององค์กร B.I.G. VISION™ FOR ALL ในงานแว่นตาระดับโลก ปี 2020 B.I.G. คือ Biometric Intelligent Glasses แว่นตาอัจฉริยะทางไบโอเมตริกซ์ที่เปลี่ยนแนวคิดในการผลิตเลนส์ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยการตรวจวัดข้อมูลทางไบโอเมตริกซ์ทั้งหมดของดวงตา ตั้งแต่ความยาวลูกตาไปจนถึงข้อมูลนับหลายพันจุดของดวงตา เพื่อผลิตเป็นเลนส์เฉพาะบุคคลที่ให้ผลลัพธ์เป็นความแม่นยำที่สุดในโลก สร้างความคมชัดทุกมุมมองการรับรู้ของผู้ที่สวมใส่
โดยทั่วไปแล้วดวงตาของคนมีเป็นแสนล้านคู่ ซึ่งในแสนล้านคู่นั้นจะพบว่าดวงตาของคนแต่ละคนล้วนมีกายภาพของดวงตาที่มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งรูปร่างและขนาดของดวงตา แต่ทุกวันนี้ผู้ผลิตเลนส์ส่วนใหญ่ยังคงใช้แบบจำลองดวงตามาตรฐานเดิมในการผลิตเลนส์ เมื่อไม่มีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม ระบบจะใช้เพียงมาตรฐานจากแบบจำลองดวงตามาตรฐาน ซึ่งค่ามาตรฐานเหล่านี้เหมาะสมกับดวงตาเพียง 2% ทำให้ 98% ของเลนส์เหล่านี้มีค่าพารามิเตอร์ไบโอเมตริกของแบบจำลองตามาตรฐานมีค่าเบี่ยงเบนไปจากค่าที่แท้จริงของดวงตาแต่ละข้าง ซึ่งหมายความว่าเลนส์ไม่ได้รับการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของดวงตาของแต่ละบุคคล ส่งผลต่อความแม่นยำในการผลิตเลนส์ในแบบเฉพาะบุคคล
จากรูปตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นกายภาพของดวงตา ที่มีอวัยวะหรือองค์ประกอบที่เป็นส่วนสำคัญที่ล้วนทำให้เกิดการมองเห็น ซึ่งการมองเห็นภาพของดวงตาเราเริ่มจากการที่เมื่อแสงเดินทางผ่านดวงตานั้นแสงจะหักเหไปยังจุดรับภาพชัด (fovea centralis) และสร้างภาพที่คมชัดบนจอประสาทตา ซึ่งแต่ละองค์ประกอบที่แสงเดินทางผ่านไม่ว่าจะเป็น
ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญในการมองเห็น เนื่องจากองค์ประกอบเหล่านี้มีดัชนีการหักเหของแสงต่างกัน ดังนั้นจึงต้องคำนวณแต่ละค่าอย่างแม่นยำ
ดังนั้นทาง Rodenstock จึงใช้ข้อมูลหลายพันจุดเพื่อวัดและกำหนดพารามิเตอร์ของตา และนำข้อมูลนี้ส่งตรงสู่การผลิตเลนส์ที่ผลิตขึ้นตามลักษณะทางไบโอเมตริกของแต่ละดวงตา จึงได้คิดค้นและพัฒนาเลนส์โปรเกรสซีฟกลายเป็น B.I.G. VISION ; B.I.G. คือ Biometric Intelligent Glasses แบบจำลองดวงตาไบโอเมตริกที่สมบูรณ์แบบเพื่อดวงตาแต่ละดวงขึ้นมาได้ แบบจำลองดวงตาไบโอเมตริกทำให้เราสามารถมอบความแม่นยำคมชัดอย่างสูงสุดสำหรับดวงตาทุกดวงที่มีความเฉพาะบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม